การรักษารากฟัน คือ การนำเอาเส้นเลือด และเส้นประสาทที่มาเลี้ยงตัวฟันออกไป แล้วแทนที่ด้วยวัสดุบางอย่าง การรักษาคลองรากฟันจะกระทำเมื่อฟันผุหรือหักทะลุโพรงประสาทฟัน และไม่สามารทำการอุดฟันได้ตามปกติ หรือฟันที่รับอันตรายจากแรงกระแทก ทำให้เส้นเลือดที่มาเลี้ยงตัวฟันขาดหรือเสียไป ซึ่งอาการเบื้องต้นที่เห็นได้ชัดคือ ปวดฟัน ฟันมีสีคล้ำลงกว่าเดิม
ขั้นตอนการรักษารากฟัน มีรายละเอียดที่สำคัญดังนี้
1. กรอฟันหาคลองรากฟันซึ่งเป็นรูเล็กๆ อยู่ต่อจากโพรงประสาท ถึงปลายรากฟัน
2. ขยายคลองรากฟันให้ใหญ่ขึ้น เพื่อใช้น้ำยาล้าง ซับให้แห้ง และใส่ยาฆ่าเชื้อโรคได้
3. ปิดโพรงประสาทฟันด้วยวัสดุอุดชั่วคราว เพื่อให้ยาออกฤทธิ์ประมาณ 3 ถึง 7 วัน
4. ล้าง และขยายคลองรากฟัน พร้อมเปลี่ยนยาฆ่าเชื้อโรคใหม่ และอุดปิดโพรงประสาทฟันด้วยวัสดุอุดชั่วคราวกลับไปอีกครั้ง ทำเช่นนี้ 4 - 5 ครั้ง จนกว่าไม่มีเชื้อโรค และสิ่งสกปรกตกค้าง
5. เมื่อไม่มีเชื้อโรคและสิ่งสกปรกตกค้าง ทันตแพทย์ก็จะทำการอุดปิดโพรงประสาทฟันถาวรโดยใช้วัสดุจำพวกยาง อุดตั้งแต่ปลายรากฟันถึงพื้นโพรงประสาทฟัน และปิดทับด้วยวัสดุทางทันตกรรมจำพวกซีเมนต์ ( Cement) และอมัลกัม ( Amalgum ) ซึ่งมีสีโลหะมีคุณสมบัติให้ความแข็งแรงได้ดี จึงใช้อุดฟันกรามที่ต้องรับแรงบดเคี้ยวมากๆ สำหรับฟันหน้าที่ต้องการความสวยงาม และไม่ต้องรับแรงบดเคี้ยวมาก ก็จะอุดด้วยวัสดุที่มีสีเหมือนฟันธรรมชาติ
6. ทันตแพทย์จะทิ้งระยะเพื่อรอดูอาการซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพของฟัน และเมื่อแน่ใจว่าการรักษารากฟันประสบความสำเร็จ ทันตแพทย์ก็จะทำการครอบฟันด้วยวัสดุตามความเหมาะสม
การรักษารากฟัน สามารถเก็บรักษาฟันไว้ใช้งานได้ต่อไป ดีกว่าการใส่ฟันปลอม เพราะฟันที่รักษารากแล้วก็เหมือนฟันในปากซี่อื่นๆ คือ มีเบ้ากระดูกยึดให้ฟันแน่นมั่นคงแข็งแรง และให้ความรู้สึกที่ดีกว่าการใส่ฟันปลอม